2/21/2555

ระบบ hot plug หรือ hot swap คืออะไร

Hot-Swap คือ สามารถ Plug หรือ ถอดเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แม้ขณะเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องปิด-เปิดเครื่องใหม่ ( แต่ก็ไม่ควรจะถอดออก ในขณะที่อุปกรณ์นั้นๆ ยังทำงานอยู่ )


Hot Plug คือ ถอดเสียบตอนเปิดเครื่องได้


Hot Plug หรือ Hot Swap หรือ Hot Swop ต่างกันอย่างไร
เหมือนกัน แค่ต่างชื่อเรียกตามค่ายต่างๆ เช่น IBM เรียก Hot Plug, Plugable, HP


Hot Plug หรือ Hot Swap หรือ Hot Swop คืออะไร
คือ Hard disk ซึ่งสามารถถอดออกจากด้านหน้าเครื่องได้ทันที ไม่ต้องไขน็อต

(c)http://www.adslthailand.com/forum/viewtopic.php?p=98073

เครื่องคำนวณกราฟ TI มีประโยชน์ในการใช้งานอะไร อย่างไร



เครื่องคำนวณเชิงกราฟ TI-84 Plus
คุณลักษณะสำคัญของเครื่องจอภาพขนาด 8 บรรทัด บรรทัดละ 16 ตัวอักษร (64 x 96 พิกเซล)ตัวเครื่องมีขนาด 192 x 89 x 27 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 262 กรัมใช้แบตเตอรี่ชนิดอัลคาไลน์ ขนาด AAA จำนวน 4 ก้อนมีฝาแบบเลื่อนได้เพื่อป้องกันการกระแทก

สามารถใช้ร่วมกับ TI View Screen และ TI-Presenter เมื่อต่อเข้ากับ TI- 84 Plus Presentation Link adaptor
สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม CBL2 และ CBR เพื่อสร้างกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ได้การประมวลผลจะเร็วกว่าเครื่องคำนวณรุ่นTI-83 Plus อยู่ 2.5 เท่าจอภาพขนาด 8 บรรทัด แต่ละบรรทัดมี 16 ตัวอักษรมีหน่วยความจำ 504 Kbytes แบ่งเป็น RAM 24 Kbytes และ Flash ROM 480 Kbytesใช้แบตเตอรี่ขนาด AAA จำนวน 4 ก้อน และแบตเตอรี่แบคอัพแบบซิลเวอร์ออกไซด์ เพื่อป้องกันข้อมูลหายขณะเปลี่ยนแบตเตอรี่หลัก

ระบบ หน่วยความจำเป็นแบบ Flash memory ที่สามารถเก็บข้อมูล และสามารถอัพเกรด ระบบปฏิบัติการของเครื่อง (Operating System) หรือโปรแกรมประยุกต์ (Application) ที่พัฒนาจาก TI ซึ่งข้อมูลที่อยู่ในระบบ Flash memory นี้ แม้ไม่มีแบตเตอรี่สำรอง ก็จะไม่ทำให้ข้อมูลสูญหายมีฝาแบบเลื่อนได้เพื่อป้องกันการกระแทกมีฟังก์ชันของนาฬิกาไว้บอกวันที่ และ เวลาโปรแกรมประยุกต์ (Application) ที่โหลดไว้ในตัวเครื่อง ได้แก่

Cabri Jr.
CBL /CBR
Conic Graphing
Inequality Graphing
Study Card
Science Tools
Time Span
Topics in Algebra 1 ,Chapter 1-4
Topics in Algebra 1 ,Chapter 5
Probability Simulations
Transformation Graphing


แบ่งหน้าจอภาพเพื่อแสดงผลได้ 2 แบบ คือ แบ่งตามแนวนอน และแบ่งตามแนวตั้งคำนวณได้ทั้งในระบบจำนวนจริง และจำนวนเชิงซ้อน มีความละเอียดในการคำนวณ 14 หลัก แต่จะแสดงผลได้ 10 หลัก และ เพิ่มเอ็กโพเนนอีก 2 หลัก

สามารถคำนวณค่าของ Hyperbolic Functions cosh sinh tanh และ arc ได้กราฟ ของฟังก์ชันได้ 10 สมการ กราฟของฟังก์ชันพารามิเตอร์(Parameter Function)ได้ 6 ฟังก์ชัน กราฟของฟังก์ชันเชิงขั้ว (Polar form) ได้ 6 ฟังก์ชัน และกราฟของอนุกรม(Sequences)ได้ 3 อนุกรมแสดงกราฟของฟังก์ชันได้ 10 สมการพร้อมกัน บันทึกกราฟและวิเคราะห์กราฟได้ในเวลาเดียวกัน
เขียนกราฟของฟังก์ชัน โดยกำหนดช่วงของโดเมนได้สามารถ Zoom เพื่อย่อขยายกราฟได้ 14 คำสั่งแสดงกราฟของสมการด้วยลักษณะของเส้นที่แตกต่างกันได้ 7 แบบวิเคราะห์กราฟของฟังก์ชันได้ เช่น การหาค่าของฟังก์ชัน การหาค่าราก ค่าสูงสุด หรือค่าต่ำสุดของฟังก์ชัน การหาอินทิกรัล การหาอนุพันธ์

แสดงค่า x และ y ของฟังก์ชัน ในรูปตารางได้ กำหนดค่าในการแสดงตารางได้สามารถสร้างเมทริกซ์ได้ 10 เมทริกซ์ โดยมีมิติได้สูงสุด 50 ? 50 ( ขึ้นอยู่กับความจำ )สามารถ คำนวณและดำเนินการเกี่ยวกับเมตริกซ์ (Matrix) ได้แก่ การหา Inverse ,determinant ,transpose , augment, reduced row echelon form และ elementary row operationsสามารถตั้งชื่อชุดข้อมูล (List) ได้ และสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า 999 ข้อมูลการวิเคราะห์พื้นฐานของข้อมูล ทางสถิติ จะประกอบไปด้วยวิเคราะห์ข้อมูลแบบ 1 ตัวแปร หรือ 2 ตัวแปร ได้การ หาสมการความสัมพันธ์(Regression equation) ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ 9 รูปแบบ เช่น สมการเชิงเส้น สมการควอดราติก สมการกำลังสาม สมการเอกโปเนนเชียล สมการลอการิทึม และสมการความสัมพันธ์ ในรูปของฟังก์ชันตรีโกณ Sin x

แสดงกราฟ ทางสถิติ ได้ 3 รูปแบบพร้อมกัน บันทึกและวิเคราะห์กราฟได้ในเวลาเดียวกัน ลักษณะของกราฟมี 6 รูปแบบ คือ แผนภาพการกระจาย กราฟเส้นตรง ฮีสโทรแกรม กราฟ Box Plot 2 รูปแบบและ normal probability plotการ ดำเนินการทางสถิติชั้นสูง ทั้งการทดสอบสมมุติฐานและการวิเคราะห์ความแปรปรวน ในรูปแบบต่าง ๆ 16 เรื่อง เช่น Z-Test , T-Test ,F-Test ,Chi-square Test และ ANOVA เป็นต้นฟังก์ชัน Proability Distribution ต่างๆ 15 เรื่อง เช่น แบบ Normal แบบ Student-t แบบ Chi-Square แบบ Binomial และ แบบpoisson

มีฟังก์ชันการเงินได้แก่ Time-Value-of –Money (TVM) ,Cash Flow ,amortizationสามารถแก้สมการที่มีตัวแปรต่าง ๆ กัน
เรียกใช้คำสั่งการทำงานของเครื่อง ทั้งหมดได้จาก เมนู CATALOG

สามารถดำเนินการเกี่ยวกับโปรแกรมภาษาเบสิคทั้งการสร้าง การแก้ไข และการ RUN โปรแกรมเมื่อ ต่อเข้ากับ TI- 84 Plus Presentation Link adaptor ( อุปกรณ์เสริม ) สามารถใช้ร่วมกับ View Screen เพื่อแสดงภาพผ่านเครื่องฉายข้ามศีรษะ

เมื่อ ต่อเข้ากับ TI- 84 Plus Presentation Link adaptor ( อุปกรณ์เสริม ) สามารถใช้ร่วมกับ TI-Presenter เพื่อแสดงภาพผ่านโปรเจคเตอร์หรือโทรทัศน์ได้
สามารถ ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม Calculator - Based Laboratory ( CBL ) และ Calculator – Based Ranger ( CBR ) เพื่อการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์
ใช้ร่วมกับสาย USB Unit-to-Unit Link Cable เพื่อการรับส่งข้อมูลจากเครื่องหนึ่ง ไปยังอีกเครื่องหนึ่งสามารถรับ-ส่งข้อมูลกับเครื่อง TI-83 TI-83 Plus TI-83 Plus Silver Edition TI- 84 plus และ TI-84 Plus Silver Editon 

อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง network ประกอบด้วยอะไรบ้าง



อุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
        1. คอมพิวเตอร์ ควรเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหน่วยประมวลผลตั้งแต่ 166 MHz มีหน่วยความจำหลัก RAM ตั้งแต่ 16 MB ขึ้นไป

        2. โมเด็ม (Modulator Demodulator Machine) คืออุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่แปลงข้อมูลที่ได้จาก เครื่องคอมพิวเตอร์ไปเป็นสัญญาณไฟฟ้ารูปแบบหนึ่ง (Impulse) ซึ่งสามารถส่งผ่านสายโทรศัพท์ทั่วไปได้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์นั้นจะเป็นสัญญาณ อนาล็อก ส่วนสัญญาณข้อมูลที่มาจากคอมพิวเตอร์จะเป็นสัญญาณดิจิตอล ทำให้ต้องใช้โมเด็มในการแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอลและดิจิตอลเป็นอนาล็อก ซะก่อน โมเด็มสามารถแยกได้เป็น 3 ชนิด แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปดังนี้

         โมเด็มแบบติดตั้งภายใน โมเด็มชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์นำมาติดตั้งเข้ากับภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง รูปร่างจะแตกต่างกันตามที่ผู้ผลิตจะออกแบบมาสำหรับคอมพิวเตอร์ชนิดนั้นๆ โมเด็มชนิดนี้จะใช้ไฟฟ้าจากสล็อตบนเมนบอร์ดทำให้เราไม่ต้องต่อไฟหม้อแปลงต่างหากจากภายนอก ส่วนมากโมเด็มติดตั้งภายในจะทำการติดตั้ง ผ่านทาง Port อนุกรม RS-232C รวมอยู่ด้วย ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่อง port อนุกรมรุ่นเก่าที่ติดมากับเครื่องคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อโมเด็มกับเครื่องคอมพิวเตอร์จะต่อทาง slot มาตรฐานในเครื่องคอมพิวเตอร์และเมื่อติดตั้งแล้วจะไม่เปลือง เนื้อที่ภายนอกใดๆ เลย และโมเด็มสำหรับติดตั้งภายในจะมี จุดให้ผู้ใช้เสียบสายโทรศัพท์เข้ากับโมเด็มโดยใช้ปลั๊กโทรศัพท ์ธรรมดา แบบ RJ-11 และมีลำโพงประกอบด้วย

          โมเด็มแบบติดตั้งภายนอก จะมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ ภายในมีวงจรโมเด็ม ไฟสถานะ และลำโพง เนื่องจากต่อภายนอกจึงต้องมี adapter แปลงสัญญาณไฟเลี้ยงวงจร และจะมีสายต่อแบบ 25 ขา DB25 เอาไว้ใช้เชื่อมต่อผ่านทาง port อนุกรม RS - 232C

           PCMCIA (Personal Computer Memory Card International Asociation) จะเป็นโมเด็มที่มีขนาดเล็ที่สุดคือ มีขนาดเท่าบัตรเครดิตรและหนาเพียง 5 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งโมเด็มชนิดนี้ออกแบบมาโดยให้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุคโดยเฉพาะ ซึ่งในปัจจุบันโมเด็มชนิดนี้จะมีความเร็วพอๆ กับโมเด็มที่ติตตั้งภายนอกและภายใน ในปัจจุบันนี้โมเด็มมีความเร็วสูงสุดที่ 56 Kbps (Kilobyte per second) โดยจะใช้ มาตรฐาน V.90 เป็นตัวกำหนด

         3.คู่สายโทรศัพท์ (Dial line) เป็นคู่สายโทรศัพท์บ้านสำหรับเชื่อมต่อกับโมเด็ม

         4.บัญชีผู้ใช้งาน (Account) จากผู้ให้บริการเอกชน ISP หรือขององค์กร/หน่วยงานต่างๆ เช่น SchoolNet 1509 ซึ่งจะกำหนดหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการเชื่อมต่อ ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password)

โปรแกรมที่ซ่อนใน xp.txt ทำอย่างไร


เมื่อคุณคลิกสองครั้งที่แฟ้มเพื่อเปิดแฟ้มแทนที่จะใช้เมนู แฟ้ม ในโปรแกรม Windows XP จะตรวจสอบนามสกุลของแฟ้ม หาก Windows XP รู้จักนามสกุลของแฟ้ม Windows XP จะเปิดแฟ้มในโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับนามสกุลของแฟ้มนั้น แต่จะเป็นอย่างไรหากคุณต้องการเปลี่ยนโปรแกรมที่เปิดเมื่อคุณคลิกสองครั้งที่แฟ้มซึ่งมีนามสกุลของแฟ้มเฉพาะ ตัวอย่างเช่น แฟ้มข้อความที่มีนามสกุล .txt โดยทั่วไปแล้วจะเปิดใน Notepad แต่หากคุณต้องการเปิดแฟ้มใน Microsoft Word แทน จะเป็นอย่างไร แล้วคุณจะทำอย่างไร บทความนี้จะอธิบายวิธีการเปลี่ยนโปรแกรมที่เริ่มทำงานเมื่อคุณคลิกสองครั้งที่แฟ้มใน Windows XP 

หมายเหตุ คุณอาจจะเปิดแฟ้มโดยคลิกที่แฟ้มเพียงครั้งเดียวแทนที่จะคลิกสองครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าตัวเลือกโฟลเดอร์ของคุณ


วิธีการเปลี่ยนโปรแกรมที่เริ่มทำงานเมื่อคุณคลิกสองครั้งที่แฟ้ม

หมายเหตุ



  • คุณไม่สามารถใช้วิธีนี้สำหรับแฟ้มที่ไม่มีนามสกุลหรือแฟ้มที่มีนามสกุลของระบบ เช่น exe, .com, .bat เป็นต้น

  • เป็นความคิดที่ดีในการจดนามสกุลแฟ้มของโปรแกรมก่อนหน้านี้ ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนโปรแกรมที่เคยใช้เปิดประเภทของแฟ้มนั้น จากนั้นคุณสามารถคืนค่านามสกุลของแฟ้มจากโปรแกรมก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายๆ หากไม่ได้เปิดแฟ้มนั้นอย่างถูกต้องในโปรแกรมที่คุณระบุไว้


ในการเปลี่ยนโปรแกรมเริ่มทำงานใดๆ เมื่อคุณคลิกสองครั้งที่แฟ้มซึ่งประเภทของแฟ้มสัมพันธ์กับโปรแกรมนั้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้



  1. เปิด My Computer หรือ Windows Explorer ให้คลิกขวาที่แฟ้มที่คุณต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าโปรแกรมที่เปิดประเภทแฟ้มนี้ แล้วใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้เพื่อเปลี่ยนโปรแกรมเริ่มทำงานใดๆ:

    • คลิก เปิดด้วย เพื่อเลือกโปรแกรมที่คุณต้องการ

    • ชี้ไปที่ เปิดด้วย แล้วคลิก เลือกโปรแกรม เพื่อเลือกโปรแกรมที่คุณต้องการ



  2. ขอให้สังเกตว่ากล่องโต้ตอบเปิดด้วยจะปรากฏขึ้น ใช้วิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้เพื่อเลือกโปรแกรมที่คุณต้องการใช้เปิดแฟ้มชนิดนี้:

    • ในรายการ โปรแกรมให้คลิกที่โปรแกรมที่คุณต้องการ

    • คลิก เรียกดู ค้นหาและคลิกโปรแกรมที่คุณต้องการใช้ จากนั้นคลิกที่ ตกลง

    • คลิก ค้นหาโปรแกรมที่เหมาะสมบนเว็บเพื่อเรียกดูอินเทอร์เน็ตสำหรับค้นหาโปรแกรมที่คุณต้องการ



  3. คลิกเพื่อเลือกกล่องกาเครื่องหมายใช้โปรแกรมที่เลือกในการเปิดแฟ้มชนิดนี้เสมอ หากยังไม่ได้เลือก

  4. คลิก ตกลง

    หมายเหตุจากนี้เป็นต้นไป Windows XP จะเปิดแฟ้มทั้งหมดที่มีนามสกุลอยู่ในโปรแกรมที่สัมพันธ์กัน เพื่อเปลี่ยนลักษณะการทำงานนี้ คุณอาจจะต้องทำตามขั้นตอนเหล่านี้อีกครั้งและเชื่อมโยงกับโปรแกรมอื่นด้วยนามสกุลของแฟ้มนี้


วิธีการแสดงนามสกุลของแฟ้มทั้งหมดสำหรับโปรแกรมที่ติดตั้ง

คุณอาจมองไม่เห็นนามสกุลของแฟ้มของคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณในตัวเลือกโฟลเดอร์ หากต้องการให้แสดงนามสกุลแฟ้มของคุณ ในกรณีที่ยังไม่แสดง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:



  1. เปิด My Computer หรือ Windows Explorer

  2. บนเมนู เครื่องมือ คลิก ตัวเลือกโฟลเดอร์

  3. คลิกที่แท็บ มุมมอง

  4. คลิกเพื่อล้างกล่องกาเครื่องหมาย ซ่อนนามสกุลสำหรับชนิดแฟ้มที่รู้จัก


ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง

หัวข้อนี้มีไว้สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ขั้นสูง หากคุณกังวลกับวิธีการแก้ไขปัญหาขั้นสูง คุณอาจต้องการความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นหรือติดต่อฝ่ายสนับสนุน สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการติดต่อ โปรดเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ต่อไปนี้ของ Microsoft:



วิธีสร้างความสัมพันธ์ของแฟ้มสำหรับประเภทแฟ้มที่ไม่สัมพันธ์กัน


คุณอาจต้องการสร้างความสัมพันธ์สำหรับประเภทแฟ้มที่ไม่สัมพันธ์กับโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยมีสาเหตุสองสาเหตุทั่วๆ ไปสำหรับการทำงานนี้:



  • โปรแกรมเช่น โปรแกรมฐานข้อมูลจะสร้างรายงานที่มีนามสกุลที่ไม่ได้ลงทะเบียนใน Windows XP

  • คุณได้รับสิ่งที่แนบของข้อความอีเมลที่สร้างขึ้นในโปรแกรมที่ไม่ได้รับการติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ อย่างไรก็ตามมีโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่แล้วซึ่งสามารถอ่านแฟ้มเหล่านี้ได้


เมื่อต้องการสร้างความสัมพันธ์ของแฟ้ม ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:



  1. คลิกขวาที่แฟ้มซึ่งมีนามสกุลที่คุณต้องการแก้ไข แล้วคลิก เปิด

    หมายเหตุ หากไม่มีคำสั่ง เปิด ให้คลิก เปิดด้วย หรือคลิกที่แฟ้มสองครั้ง

  2. Windows XP แสดงกล่องโต้ตอบที่ระบุว่าไม่มีโปรแกรมที่สัมพันธ์กับแฟ้มนี้ กล่องโต้ตอบนี้มีสองตัวเลือกสำหรับการสร้างความสัมพันธ์:

    • Use the Web service to find the appropriate program

    • Select the program from a list


    นอกจากคุณต้องการค้นหาและดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ที่เปิดประเภทแฟ้มนี้ ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการเลือกโปรแกรมจากรายชื่อ

  3. คลิก เลือกโปรแกรมจากรายการ แล้วคลิก ตกลง

  4. กล่องโต้ตอบ เปิดด้วย จะปรากฏขึ้น ใช้วิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้เพื่อเลือกโปรแกรมที่คุณต้องการใช้เปิดแฟ้มชนิดนี้:

    • ในรายการ โปรแกรม ให้คลิกที่โปรแกรมที่คุณต้องการ

    • คลิก เรียกดู ค้นหาและคลิกโปรแกรมที่คุณต้องการใช้ จากนั้นคลิกที่ ตกลง

    • คลิก ค้นหาโปรแกรมที่เหมาะสมบนเว็บ เพื่อเรียกดูอินเทอร์เน็ตสำหรับค้นหาโปรแกรมที่คุณต้องการ



  5. คลิกเพื่อเลือกกล่องกาเครื่องหมาย ใช้โปรแกรมที่เลือกในการเปิดแฟ้มชนิดนี้เสมอหากยังไม่ได้เลือก

  6. คลิก ตกลง


การแก้ไขปัญหา


หากคุณเปลี่ยนโปรแกรมที่ Windows ใช้เพื่อเปิดแฟ้มชนิดนี้ แฟ้มดังกล่าวอาจแสดงผลไม่ถูกต้องในโปรแกรมนั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมที่คุณเลือกเปิดแฟ้มประเภทนี้สามารถจัดการประเภทแฟ้มดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง